What other travelers are saying about ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอญี่ปุ่น
Universal Studios Japan เป็นสวนสนุกที่ดีงามมาก ใช้เวลาได้ทั้งวันไม่เบื่อเลย การเดินทางก็ง่าย ด้วยการนั่งรถไฟไปลงสถานี Universal City Station เราไปในวันพฤหัส โดยซื้อแค่บัตร studio pass ไม่ได้ซื้อ express และไปตั้งแต่เช้าก่อนเวลาเปิด ทำให้ช่วงแรกๆ ใช้เวลารอเครื่องเล่นนิดเดียวเอง
โซนแรกที่ไปคือ Harry Potter และไปเล่น Forbidden Journey ก่อน อันนี้คือเดินชิลไปได้เลย รอไม่เกิน 10 นาที พอออกมาแล้วก็ไปต่อที่ Fight of the Hippogriff อันนี้ก็รอไม่นาน ไม่เกิน 20 นาที ระหว่างนั้นก็กดจองเข้าโซน Mario ในแอพไปด้วย ได้คิวช่วงเช้าเลย ระหว่างนั้นก็เดินช้อปในโซน HP ถ่ายรูปชิวๆ ได้ คนไม่ค่อยเยอะ
แต่พอไปโซน Mario คือคนเป็นแสนล้าน ถ่ายรูปมุมไหนก็ติดคน ได้เล่นแค่ Mario Kart รอประมาณชั่วโมงกว่า แล้วออกเลย กลับไปหาร้านอาหาากินต่อ แล้วค่อยเดินไปโซนโคนันที่เป็น 4-D live show และปิดท้ายด้วย Kimetsu no Yaiba ที่รอนานที่สุดแต่สนุกสุดๆ
สำหรับเราคือเป็นประสบการณ์ที่ดีและคุ้ม เพราะไม่ได้เน้นปริมาณเครื่องเล่น แต่เน้นชิลตามความพอใจตัวเอง
"Universal Studios Japan – ประสบการณ์ที่เกินคำบรรยาย!"
บอกเลยว่าสุดมากกกก! ทุกก้าวที่เดินเข้าไป เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของภาพยนตร์จริงๆ แบบไม่มีอะไรเทียบได้! แต่ละโซนคือจัดเต็มทั้งบรรยากาศ รายละเอียด และความมันส์จนลืมหายใจ!
The Wizarding World of Harry Potter – แค่เดินผ่านประตูเข้าไป ฮอกส์มี้ดกับปราสาทฮอกวอตส์ก็ทำให้ขนลุกแล้ว! ขี่ไม้กวาดบินกับแฮร์รี่ใน Harry Potter and the Forbidden Journey คือที่สุด!
Super Nintendo World – เหมือนโดดเข้าไปในเกมมาริโอ! ทั้งสีสัน ความสนุก และเครื่องเล่นอย่าง Mario Kart: Koopa's Challenge คือมันส์แบบหยุดหัวเราะไม่ได้!
Jurassic Park – โซนนี้เหมือนย้อนยุคไปโลกไดโนเสาร์จริงๆ! The Flying Dinosaur เครื่องเล่นสุดโหดแต่โคตรมัน ใครสายหวาดเสียวห้ามพลาด!
Minion Park – ใครเป็นสายคิ้วท์ต้องหลงรัก! โซนนี้น่ารัก สดใส มีเสียงหัวเราะจากเหล่ามินเนียนเต็มไปหมด!
Hollywood & New York – เดินผ่านเหมือนได้ไปเดินถนนจริงๆ ในอเมริกา แถมยังได้มันส์กับ Hollywood Dream – The Ride ทั้งเวอร์ชันเดินหน้ากับถอยหลังสุดโหด!
ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนหนัง สายเครื่องเล่น หรือแค่อยากมาหาความสุข Universal Studios Japan คือที่สุดของสวนสนุกที่ไม่ควรพลาดในชีวิตนี้! ไปแล้วจะเข้าใจว่า “คำว่าฟินเกินบรรยาย” มันเป็นยังไง!
