อุทยานพฤกษศาสตร์เทศบาลโคเบะ

สวนพฤกษาศาสตร์ขนาดใหญ่ รวมพันธุ์ไม้จากเขตอบอุ่นไว้เยอะมาก เดินทางมาไม่ยาก นั่งรถไฟมาลงสถานี Kita-Suzurandai แล้วเดินข้ามถนนมารอใกล้ ๆ ป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้ามสถานี (เวลากดดูในเว็ปของส่วน ปกติจะเริ่มออก 9.05 น. และออกทุก ๆ 1 ชั่วโมง แต่บางช่วงอาจจะมีเพิ่ม) ค่าเข้าคนละ 300 เยน สำหรับผู้ใหญ่ ช่วงฤดูใบไม้ร่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ใบไม้แดงสวยมาก โดยเฉพาะบริเวณรอบ ๆ สระน้ำ ทางเดินมีขึ้นเนินลงเนินบ้าง แต่ไม่ได้ชันมาก ตู้ขายน้ำหยอดเหรียญในสวน มีแค่จุดที่ 6 (ตามแผนที่) แนะนำถ้ายังไม่มีน้ำและต้องการเดินรอบสวน ควรติดตัวไว้ อาหาร แนะนำห่อมาเอง จะประหยัดกว่า ข้าวปั้นจากร้านสะดวกซื้อก็ง่ายดี คนที่มาส่วนมากจะเป็นชาวญี่ปุ่นสูงวัย ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากนัก

ฉันไปที่นั่นโดยรถยนต์ในวันอังคารกลางเดือนมิถุนายน 2015 โปรดทราบว่าสวนสาธารณะปิดในวันพุธ ค่าจอดรถคือ 500 เยน และค่าเข้าชมที่ประตูทางเข้า 300 เยน หากคุณแสดงบัตรสมาชิก JAF หรือบัตร AEON คุณจะได้รับส่วนลดค่าเข้าชม 10% นอกจากนี้ หากคุณอาศัยอยู่ในเมืองโกเบและมีอายุ 65 ปีขึ้นไปและมีใบรับรองที่ออกโดยสถาบันของรัฐ การเข้าชมฟรี นอกจากนี้ บัตรผ่านประจำปีสำหรับสวนสาธารณะทั้งสามแห่ง (Arashi Botanical Garden, Soraku Garden และ Rikyu Park) มีราคา 900 เยน ดังนั้นหากคุณต้องการเพลิดเพลินกับดอกไม้และต้นไม้ในทุกฤดูกาล ขอแนะนำให้มาที่นี่ ครั้งนี้ ฉันได้ไปชมสวนดอกไฮเดรนเยีย ตามที่ระบุในเว็บไซต์ มีดอกไฮเดรนเยียอยู่ประมาณ 50,000 ต้น แต่ดอกไฮเดรนเยียไม่ได้มีสีสันสวยงาม และฉันรู้สึกว่ายังมีพันธุ์ไม้ดอกที่คล้ายกันอีกหลายพันธุ์ที่กำลังบานสะพรั่ง อย่างไรก็ตาม ดอกไฮเดรนเยียที่บานสะพรั่งอยู่ทั้งสองข้างของเนินไฮเดรนเยียก็สวยงามมาก ฉันจึงเพลิดเพลินกับมันมาก มีผู้คนหลากหลายประเภทอยู่ที่นั่น รวมทั้งเด็กที่ไปทัศนศึกษาที่โรงเรียนอนุบาล การรวมตัวของสมาคมผู้สูงอายุ และผู้คนที่มาเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ แต่ก็ไม่ได้แออัดจนเกินไป ฉันจึงสามารถเดินชมรอบๆ ได้อย่างสบายๆ มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพียงไม่กี่คนที่นี่และที่นั่น ดังนั้นพื้นที่นี้จึงค่อนข้างกว้าง และต้องใช้เวลาทั้งวันในการสำรวจพื้นที่ทั้งหมด มีเนินค่อนข้างเยอะและคุณจะต้องเดินเยอะมาก ดังนั้นฉันแนะนำให้ใส่รองเท้าผ้าใบที่แข็งแรง รองเท้าแตะหรือรองเท้าผ้าใบอาจทำให้เท้าของคุณเจ็บได้ อากาศเย็นสบายในที่ร่ม แต่คุณต้องดื่มน้ำให้เพียงพอในฤดูร้อน มีเครื่องขายของอัตโนมัติและคาเฟ่ ดังนั้นคุณจึงสามารถเพลิดเพลินกับอาหารกลางวันเบาๆ ได้ มีห้องน้ำอยู่ทุกที่ ดังนั้นคุณจะไม่ต้องลำบาก ในวันที่ 6 กรกฎาคม นักแสดงสาวเคียวโกะ มาโนะ ผู้อำนวยการกิตติมศักดิ์ของสวนสาธารณะจะมาเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลทานาบาตะ

ฉันไปดูดอกไฮเดรนเยียในช่วงปลายเดือนมิถุนายน เป็นวันเสาร์ ดังนั้นทางเข้าลานจอดรถจึงคับคั่งไปด้วยผู้คน อาจเป็นเพราะมีคนเดินทางมาด้วยรถยนต์เป็นจำนวนมาก ฉันเดินจากสถานี Tanigami ไปยังสวนพฤกษศาสตร์ หากคุณอายุ 65 ปีขึ้นไป เข้าชมได้ฟรี เพียงแสดงบัตรประจำตัว เป็นวันที่อากาศร้อน แต่สวนพฤกษศาสตร์มีต้นไม้ร่มรื่นมากมาย และมีลมพัดเย็นสบาย ทำให้รู้สึกสดชื่นและน่ารื่นรมย์

ฉันไปดูดอกไฮเดรนเยียในวันอาทิตย์ปลายเดือนมิถุนายน ฉันมาถึงตอน 9 โมงเช้าตอนที่สวนเปิด อย่างแรกเลยคือตอนจอดรถในลานจอดรถ เสียค่าจอดรถ 500 เยน และค่าเข้า ผู้ใหญ่ 300 เยน ราคาไม่แพง ฉันใช้คูปองส่วนลดลด 20% ด้วย ฉันมาถึงสวนตอนเปิดพอดี เลยจอดรถได้สบายๆ สวนใหญ่มาก ดอกไฮเดรนเยียก็บานสะพรั่งสวยงาม เนินแอนนาเบลสวยมาก ประทับใจมาก มีคนมาถ่ายรูปที่เนินแอนนาเบลเยอะมาก ฉันมาที่เนินแอนนาเบลด้วยความตั้งใจที่จะถ่ายรูป แต่ไม่คิดว่าจะสวยขนาดนี้... ประทับใจกว่าที่คิดไว้อีก ถึงจะเป็นไฮเดรนเยีย แต่ก็มีหลากหลายสายพันธุ์ บานสะพรั่งสวยงามมาก ซึ่งก็เยี่ยมมาก แต่อากาศก็ค่อนข้างร้อน คุณเดินเยอะมาก เลยต้องเตรียมอุปกรณ์กันร้อนไว้ด้วย ฉันซื้อซาลาเปาไฮเดรนเยียรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น เขียนทานาบาตะทันซะกุ และสนุกมากเลย น้ำพุดอกไม้ตรงทางเข้าห้องนิทรรศการป่าไม้ก็สวยงามมากเช่นกัน ปีหน้าอยากมาอีกจัง ประทับใจกับความงามของดอกไฮเดรนเยียที่ชื่อว่า "อะริกาโตะ" ที่คิตะนาเอบะ

ฉันไปดูดอกไฮเดรนเยียมาค่ะ มีดอกไฮเดรนเยียหลากหลายสายพันธุ์ปลูกในพื้นที่กว้างกว่าที่คิดไว้ คุ้มค่าแก่การชมจริงๆ ครั้งหน้าจะไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟที่ทำจากนมจากฟาร์มยูเกะก็อร่อยเหมือนกัน ในร้านยังมีของเบ็ดเตล็ดน่ารักๆ อีกด้วย สุดท้ายฉันก็เลยซื้อมาบ้าง