ศาลเจ้านัมบะ ยาซากะ

ศาลเจ้านัมบะ ยาซากะ (Namba Yasaka Shrine) ตามความเชื่อ "ปากของสิงโตตัวใหญ่นั้นจะสามารถกลืนกินสิ่งไม่ดีต่างๆ ปัดเป่าความชั่วร้ายให้หายไป และนำพามาโชคลาภเข้ามา" จึงกลายเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มาสักการะขอพรเรื่องการเรียน การงานให้เกิดความสำเร็จ...เดินทางมาง่ายจากจุดถ่ายรูปกูลิโกะประมาณ 15 นาทีด้วยการเดินเท้า ถ้านำรถมาจะมีจุดจอดรถบริเวณในตัววัด จอดได้ประมาณ 8 คัน บริเวณวัดสะอาด รมรื่น ชวนให้เกิดความสงบ สำหรับสายมูก็จะมียันต์ต่างๆจำหน่าย เพื่อนำไปสักการะหรือพกติดตัว สถานที่ - ศาลเจ้านัมบะ อยู่แถว นัมบะ และใกล้กับ นัมบะพาร์ค ซึ่งไม่สามารถนั่งรถไฟมาได้เพราะ อยู่ตรงกลางทางพอดี ต้องเดินมา แสวงบุญจนเหนื่อยอ่ะ ก่อนถึงวัดมีร้านอาหาร และ มินิมาร์ท แวะซื้อก่อนได้ เพื่อหิวระหว่างเดิน ศาลเจ้านัมบะ เป็นศาลเจ้าที่โดเด่นใน โอซาก้าเพราะหัวสิงโตยักษ์เนี่ยแหละ (ใครไป โอซาก้า ก็ต้องแวะไปถ่ายรูปล่ะนะ) บริเวณศาลเจ้ามีขนาดไม่ใหญ่มาก เรียกว่าขนาดเล็กละกัน เพราะเดินไม่ถึง 10 นาทีก็รอบวัดแล้ว จุดสำคัญก็คือหัวสิงโต และศาลเจ้าด้านข้างมี เครื่องราง ให้ได้เช่า บูชากัน อาหาร - ในวัดไม่มี แต่รอบๆข้างมา ร้านอาหาร และ มินิมาร์ท ห้องน้ำ - ไม่แน่ใจ เพราะวัดเล็กมาก อาจจะมีลองถามเจ้าหน้าที่ในวัดดู หรือถ้าไม่ชัวร์ ก็เข้าห้องน้ำ ก่อนเดินทางมาถึงวัดก็ดี จะได้ไม่รีบร้อนจนเกินไป ราคา - ค่าเข้าวัดไม่มี ...มีแต่ค่าเช่า เครื่องราง และ ทำบุญ บำรุงวัดนิดหน่อย สรุป - เป็นศาลเจ้าที่ ถ้าเราไปโอซาก้า ยังไงก็ต้องเป็น 1 ในรายการที่ต้องแวะไปอยู่ดี เพราะมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร บรรยากาศสบายๆ แวะไป เถอะนะ นะ......

มาวันอาทิตย์ คนไม่เยอะ อากาศดีมาก หัวสิงโตคืออลังการณ์มาก สวยมากน่าแวะมาไหว้จทพเจ้า ขอพรมากๆ

ศาลเจ้านัมบะ ยาซากะ (Namba Yasaka Shrine) เป็นหนึ่งศาลเจ้าของเมืองโอซาก้า (Osaka) ที่โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ที่เห็นได้แต่ไกลของหัวสิงโตยักษ์ที่ตั้งเด่นสง่าอยู่ท่ามกลางย่านนัมบะ (Namba) โดยที่นี่กลายเป็นอีกมุม Instagrammable Spot ยอดฮิตที่คนเค้านิยมมาถ่ายรูปลงไอจีกันเยอะมากเลยนะ ด้วยความที่ศาลเจ้าโดยทั่วไปในญี่ปุ่นมักจะมาด้วยอาคารหลัก และมีมีเจดีย์ตั้งอยู่เคียงข้าง ซึ่งเป็นการออกแบบส่วนใหญ่โดยรวมจะค่อนไปทางแบบดั้งเดิม มีความสำรวมและเคร่งครัดประมาณหนึ่ง แต่ในทางกลับกัน ศาลเจ้านัมบะ ยาซากะ (Namba Yasaka Shrine) นั้นเหมือนเป็นศาลเจ้าที่ถูกออกแบบฉีกกฏเหล่านั้นออกมาประหนึ่งเป็นแลนด์มาร์คให้ผู้คนได้มาถ่ายรูปกับหัวสิงโตยักษ์ที่ไม่เหมือนใคร

ตามความเชื่อ "ปากของสิงโตตัวใหญ่นั้นจะสามารถกลืนกินสิ่งไม่ดีต่างๆ ปัดเป่าความชั่วร้ายให้หายไป และนำพามาโชคลาภเข้ามา" จึงกลายเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มาสักการะขอพรเรื่องการเรียน การงานให้เกิดความสำเร็จ...เดินทางมาง่ายจากจุดถ่ายรูปกูลิโกะประมาณ 15 นาทีด้วยการเดินเท้า ถ้านำรถมาจะมีจุดจอดรถบริเวณในตัววัด จอดได้ประมาณ 8 คัน บริเวณวัดสะอาด รมรื่น ชวนให้เกิดความสงบ สำหรับสายมูก็จะมียันต์ต่างๆจำหน่าย เพื่อนำไปสักการะหรือพกติดตัว

สะอาด เดินทางสะดวก สวยงาม ไปถึง ศาลเจ้าใกล้จะเปิดแล้ว คนไม่เยอะมาก พอได้ภาพมาบ้าง ชอบในความเป็นญี่ปุ่น ต้นไม้ตัดแต่งสวยงาม ชอบครับ เดินทางจากไทยไปช่วง พฤษภา 2025 ช่วงงาน World Expo อากาศเย็นสบาย มีฝนตก แดดออก ช่วงมืดๆ จะเย็น มีลมบ้าง