คาคุโอะซัน นิตไตจิ

วัดซึ่งก้าวข้ามเส้นแบ่งนิกาย วัดนิตไทจิถูกสร้างขึ้นในปี 1904 เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งมอบเป็นของขวัญโดยประเทศไทย (สยาม ในครั้งนั้น) ในปี 1900 "คาคุโอ" คืออีกพระนามของพระพุทธ และ "นิตไท" หมายถึง "ประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทย" ประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำและทองสัมฤทธิ์ ซึ่งมอบเป็นของขวัญโดยรัฐบาลไทยประดิษฐานอยู่ตรงใจกลางของห้องโถงหลักด้านใน คู่กับพระบรมสารีริกธาตุ มีเจดีย์ห้าชั้นความสูงกว่า 30 เมตรเป็นอาคารที่ค่อนข้างใหม่ ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อเดือน มีอนุเสาวรีย์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวแห่งประเทศสยามด้านข้างห้องโถงหลัก และด้านหน้ามีระฆังที่เขียนภาษาไทยว่า พระพุทธศากยมุนี มีพระปรมาภิไท จปร และ ภปร และที่นี่คือวัดเดียวในประเทศญี่ปุ่นซึ่งไม่ได้สังกัดในนิกายใดโดยเฉพาะ

ปีนี้ได้มีโอกาสมางานไทยที่วัดนี้และมีโอกาสได้มาแสดงรำไทยด้วยค่ะ ดีใจมากๆเลยค่ะ 🥰🥰🥰

เดินทางง่าย ห่างจากรถไฟใต้ดินเพียง 10 นาที

วัดนี้ คนไทยต้องได้มากราบไหว้เพราะ ร.5 ได้พระราชทานพระบรมสารีริกธาตุ เป็นมิ่งขวัญของชาวพุทธในญี่ปุ่น วัดนี้จึงมีความสัมพันธ์ระหว่าง ไทยและ ญี่ปุ่น ร.9 ยังได้เคยเสด็จมาที่นี่อีกด้วย เรียกได้ว่ากษัตริย์ของไทยถึง2 พระองค์ให้ความสำคัญกับสถานที่นี้มาก ที่น่าอึ้งที่สุดคือ ชื่อวัด nit-มากจาก nihon ของญี่ปุ่น tai-มาจาก thailand ji- แปลว่าวัด OMG 😲😲 รายละเอียดลึกซึ้ง เปี่ยมด้วยความหมายและบุคคลสำคัญมากๆ ฉันรักญี่ปุ่นมากกว่าเดิม 💕🤟🏻❤️

หากเอ่ยถึงนาโกย่า ใครหลายคนคงนึกถึงความสวยงามของปราสาท สถานที่ท่องเที่ยวอันงดงาม และเอกลักษณ์อันสืบเนื่องมายาวนานตั้งแต่ครั้งอดีต แต่จะมีซักกี่คนที่รู้จัก วัดนิตไตจิ (nittaiji temple) อันเป็นเสมือนจารึกประวัติศาสตร์บอกเล่าความสัมพันธ์ ไทย-ญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน นอกจากนี้ครั้งหนึ่ง ในหลวง รัชกาลที่ 9 ยังเคยเสด็จฯ เยือนที่นี่ด้วย วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักวัดนี้กันให้มากขึ้น พร้อมข้อมูลของวัด การเดินทาง เพื่อจะได้ไปตามรอยวัดศาสนาพุทธที่เป็นศูนย์รวมทุกนิกายที่เดียวในญี่ปุ่น Nittaiji Temple (วัดนิตไตจิ/覚王山日泰寺) หรือ Kakuozan Nittaiji สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2447 ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 5 สิ่งที่ทำให้วัดนี้ไม่เหมือนใครอย่างแรก คือ วัดนี้ถือเป็นศูนย์รวมของทุกนิกายในญี่ปุ่นเป็นวัดแรกและวัดเดียว จึงไม่ขึ้นกับศาสนาพุทธนิกายใด ทว่าจะมีการหมุนเวียนเข้ามาดูแลวัดของแต่ละนิกาย ซึ่งไม่ได้มีแค่เรื่องนี้เท่านั้น เพราะยังมีเรื่องราวอีกมากที่คนไทยอย่างเราต้องแปลกใจ และ Unseen in japan อย่างแน่นอน ที่ต้องกล่าวในส่วนของ Houantou Reidou ซึ่งอยู่อีกฝั่งถนนของวัดก่อนเพราะ ฝั่งนี้มักถูกละเลยจากนักท่องเที่ยว ทั้งที่นี่แหละเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างวัดนี้เพราะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้พระราชทานพระบรมสารีริกธาตุให้เพื่อเป็นมิ่งขวัญของชาวพุทธในญี่ปุ่นในปี พ.ศ.2443 นอกจากนี้ยังได้พระราชทานพระพุทธรูปสำริดอายุกว่าหนึ่งพันปีให้ด้วย หลังจากได้รับพระราชทานของสำคัญถึงสองอย่าง ญี่ปุ่นจึงได้สร้างวัดขึ้นใหม่เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขึ้นในเมืองนาโกย่า และตั้งชื่อวัดนี้ว่า ‘Nittaiji’ ซึ่งคำว่า ‘Ni’ มาจากคำว่า Nihon (Japan) ‘TAi’ มาจาก คำว่า Thailand และ ‘Ji’ แปลว่า Temple หรือวัด (เดิมจึงชื่อวัดนิตเซนจิเพราะสมัยนั้นประเทศเราชื่อสยาม) ซึ่งในฝั่ง houantou reidou คือที่ตั้งของสถูปหินแกรนิตสูงกว่า 15 เมตร ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุไว้ภายใน ดังนั้นเมื่อมีโอกาสได้มาเยี่ยมชมวัดนี้ก็อย่าลืมแวะมาสักการะ บรมสารีริกธาตุ นับเป็นวัดญี่ปุ่นที่งดงามด้วยการผสมผสานรูปแบบทางศาสนาที่แตกต่าง อีกทั้งเป็นเป็นเหมือนจารึก บอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยาวนานระหว่างไทยญี่ปุ่นที่มีมานานกว่า 100 ปี เป็นสถานที่สำคัญที่คนที่วางแผนเที่ยวนาโกย่า ต้องห้ามพลาดเชียวล่ะ