สวนพฤกษศาสตร์มาคิโนะจังหวัดโคจิ

ไปถึงใกล้สวนปิด แม้จะไม่ได้เข้าชมเรือนกระจกที่มีพืชพันธุ์ไม้กว่า 3,000 ชนิด แต่เวลาครึ่งชั่วโมงที่ใช้เดินรอบนอกกับบรรยากาศของสวนที่อยู่บนเนินเขาและสามารถเห็นเมือง Kochi ที่อยู่เบื้องล่าง ก็คิดว่าคุ้ม

Kochi Prefectural Makino Botanical Garden เป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่ประทับใจของจังหวัดนี้อีก แค่ได้เข้ามาชมงานสถาปัตยกรรมและ permanent exhibition ก็ถือว่าคุ้มมากๆแล้ว ส่วน sakura สวยๆก็เป็นสีสันที่ขาดไม่ได้🙏👍😊

สวนพฤกษศาสตร์มากิโนะจังหวัดโคจิ รวบรวมพันธุ์ไม้กว่า 3,000 สายพันธุ์ที่เกี่ยวข้องกับ ดร. โทมิทาโร่ มากิโนะ ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมตลอดทั้งฤดูกาล ไฮไลท์อื่นๆ ได้แก่ เรือนกระจกที่ปลูกพืชเขตร้อน รวมถึงพันธุ์ไม้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น ไผ่ซีโบลด์ อะซาเลีย ไฮเดรนเยีย และดอกซากุระ ธรรมชาติและพืช ⦿ พืชตามฤดูกาล: พืชประมาณ 3,000 สายพันธุ์ เน้นพืชที่ ดร. มากิโนะ ชื่นชอบ ช่วยเพิ่มสีสันให้กับทั้งสี่ฤดูกาล ⦿ เรือนกระจก ป่าเขตร้อน และพื้นที่แห้งแล้ง: สภาพแวดล้อมที่หลากหลาย รวมถึงพื้นที่ริมน้ำ ถูกสร้างขึ้นใหม่ ทำให้นักท่องเที่ยวได้พบกับพืชเขตร้อน เช่น กล้วยและโกโก้ ⦿ ไผ่ซีโบลด์: ชมไผ่ที่ ดร. มากิโนะ ตั้งชื่อตามภรรยาที่รัก ไหวเอนไปตามสายลม ⦿ ไฮเดรนเยีย: ชมดอกอาซาเลียกว่า 80 สายพันธุ์ รวมถึงไฮเดรนเยียภูเขา ไฮเดรนเยียลูกไม้ และพันธุ์ไม้สวนนานาชนิด ⦿ ดอกซากุระ: นอกจากดอกซากุระที่เป็นสัญลักษณ์ของสวนแล้ว คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับพันธุ์ไม้สวนนานาชนิดได้อีกด้วย ⦿ ไฮไลท์ ⦿ พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์มากิโนะ โทมิทาโร่: เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตและความสำเร็จของดร.มากิโนะ ⦿ จัตุรัสคอนคอนยามะ: จากจัตุรัสมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองโคจิและมหาสมุทรแปซิฟิก ⦿ จัตุรัสฟุมุฟุมุ: จัตุรัสแบบอินเทอร์แอคทีฟแห่งนี้เป็นที่นิยมในหมู่เด็กๆ โดยให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสและดมกลิ่นพืชพรรณ ⦿ C, L, GARDEN: อิ่มอร่อยกับอาหารตะวันตกที่ปรุงจากวัตถุดิบตามฤดูกาลที่ร้านอาหารซึ่งอยู่ติดกับพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์มากิโนะ โทมิทาโร่ วิธีเพลิดเพลิน ⦿ เดินเล่น: บริเวณพื้นที่ปลอดสิ่งกีดขวางสามารถเข้าถึงได้ ดังนั้นจึงยินดีต้อนรับรถเข็นเด็กและรถเข็นคนพิการ ⦿ ปิกนิก: เพลิดเพลินกับอาหารกลางวันแบบกล่องที่บริเวณอาหารและเครื่องดื่ม เช่น Konkon Square

31 สิงหาคม 2568 ฉันรักสวนพฤกษศาสตร์ และหลังจากที่ได้รู้ว่า ดร. มากิโนะ เป็นที่รู้จักในฐานะ "บิดาแห่งอนุกรมวิธานพืชญี่ปุ่น" ฉันจึงตัดสินใจมาเยี่ยมชมที่นี่เป็นครั้งแรก! [สถานที่] หลังจากเดินขึ้นเขาคดเคี้ยวไปตามถนนแคบๆ ของภูเขาโกได ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทางแยกโคจิมินามิ คุณจะมาถึงลานจอดรถขนาดใหญ่ [ที่จอดรถ] มีที่จอดรถสำหรับรถยนต์ประมาณ 200 คัน และรถบัสประมาณ 6 คัน ด้านหน้าประตูทางเข้าหลัก ค่าเข้าชม 850 เยน ภายในมีนิทรรศการและนิทรรศการเกี่ยวกับการกระจายพันธุ์พืชในประวัติของโทสะและดร. มากิโนะ ห้องจัดนิทรรศการ เรือนกระจก จัตุรัสฟุมุ-ฟุมุ ที่คุณสามารถสัมผัสและดมกลิ่นพืช พื้นที่พักผ่อนพร้อมห้องสมุดขนาดเล็ก ร้านขายต้นไม้ ร้านขายของที่ระลึก และร้านอาหารที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ร้านอาหารกว้างขวางและมีผนังกระจก คุณสามารถรับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มได้ ฉันได้ลองไก่ชิมันโตะอบกรอบ อร่อย! ด้านล่างอาคารร้านอาหารเป็นห้องแล็บเด็กและห้องแล็บเคมีที่กั้นด้วยกระจก และฉันรู้สึกว่าความปรารถนาของดร.มากิโนะที่ต้องการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพืชยังคงดำเนินต่อไป ฉันชอบภาพประกอบพฤกษศาสตร์มาก ฉันเลยซื้อโปสเตอร์ต้นซากุระโอยามะซากุระที่ร้านขายของที่ระลึก ภาพวาดนั้นประณีตมากจนฉันแทบรอไม่ไหวที่จะนำไปแขวนไว้ในห้อง ถึงแม้ดอกไม้จะไม่ได้สวยงามสะดุดตานัก แต่มันก็เป็นสถานที่ที่ผู้คนทุกเพศทุกวัยสามารถเพลิดเพลินได้ และฉันคิดว่านี่เป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมที่จะสานต่อความปรารถนาของดร.มากิโนะต่อไป!

ฉันมาที่นี่เพราะสนใจสวนพฤกษศาสตร์มากิโนะ โทมิทาโร่ และนาอิโตะ ฮิโรชิ เนื่องจากเป็นสวนพฤกษศาสตร์ คุณคงอยากชมดอกไม้ ดังนั้นแม้จะขึ้นอยู่กับฤดูกาล แต่คุณจะได้รับแผนที่พืชที่บานสะพรั่งเมื่อเข้าชม ห้องจัดแสดงนิทรรศการมีคำอธิบายเกี่ยวกับมากิโนะ โทมิทาโร่ตามลำดับเวลา โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงแรกเริ่ม ทำให้เข้าใจความสำเร็จด้านการวิจัยพฤกษศาสตร์ของเขาได้ง่าย ยังมีนิทรรศการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับพืช และในครั้งที่ฉันไปเยี่ยมชม มีนิทรรศการพิเศษเกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์ มีแผ่นพับเกี่ยวกับอาคารที่นาอิโตะ ฮิโรชิ ออกแบบไว้ ซึ่งอธิบายวัตถุประสงค์ในการออกแบบ โครงสร้าง และสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงผังอาคารคร่าวๆ และข้อมูลทางสถาปัตยกรรม